โรงเพาะกัญชา

ความเกี่ยวข้องสองสิ่งนี้ถ้าพูดให้ยากหน่อยก็คือ ความชื้นสัมพัทธ์ สมัยเรียนวิทยาศาสตร์ตอนเด็กน่าจะเคยได้ยินกันมาบ้าง แต่ผมคิดว่าเราไม่จำเป็นต้องเข้าใจให้ลึกหรอก ให้จำง่ายๆว่า ณจุดๆนึง อุณภมิสูงกว่าจะเก็บน้ำในอากาศได้ดีกว่าอุณหภูมิต่ำกว่า หรือลองนึกตามนะ สมมติห้องที่นั่งอยู่ตอนนี้ไม่เปิดแอร์ ผมหยิบไฮโกรมิเตอร์(Hygrometer) ขึ้นมาดู ค่าอุณหภูมิอยู่ที่ 35ºC และ  มีความชื้นในอากาศที่ 70%  ..จากนั้นลองกดเปิดแอร์ที่ 25ºC สักพักลองดูใหม่ อุณหภูมิลงไปอยู่ที่ 25ºC และ ค่าความชื้นลดลงเหลือแค่ 60% สรุปว่า ยิ่งอากาศเย็นลงความชื้นในอากาศก็จะลดตาม

ค่าความชื้นและอุณหภูมิ ตั้งแต่เพาะเมล็ด จนถึงเก็บเกี่ยว
เราสามารถแยกช่วงปลูกที่ต้นไม้ต้องการต่างกันไปได้ 4 ช่วงหลัก แต่สิ่งแรกที่ควรจะทำคือ.. หาซื้อเครื่องไฮโกรมิเตอร์ (Hygromiter) สำหรับวัดค่าความชื้นและอุณหภูมิ แนะนำเอาแบบดิจิตอล และมีฟังก์ชั่นการจำค่าสูงสุด/ต่ำสุดได้ด้วย เพรามีประโยชน์ในการวิเคราห์เวลาเราเจอปัญหา เท่าที่ผมเจอมาบางรุ่นที่ราคาถูกๆค่าไม่ค่อยนิ่ง หากเอาชัวร์ก็ซื้อมา 2 อันวางคู่กันไปเลย หลังจากนี้เราก็จะรู้ว่าตู้ปลูกของเราค่าความชื้น-อุณหภูมิอยู่ที่เท่าไหร่

กัญชาช่วงเพาะเมล็ด (Seedling Stage)
ช่วงเพาะเมล็ด และ โคลนต้น ต้นไม้ชอบความชื้นที่ราว 65-70% เหตุผลเพราะระบบรากยังไม่สมบูรณ์ ความชื้นสูงจะช่วยให้ต้นไม้จะดูดน้ำไปใช้ทางใบเป็นหลักในช่วงเริ่มต้น
อุณหภูมิเมื่อเปิดไฟควรจะราว 20-25ºC (เมื่อปิดไฟควรต่ำลงมาอีก 4-5ºC)

กัญชาช่วงทำต้น-ใบ (Vegetation Period)
ช่วงนี้ค่าความชื้นและอุณหภูมิไม่ต้องเป๊ะมาก อยู่ในช่วงกว้างๆ เลี้ยงสบายๆ ปล่อยโตเต็มที่จะ Topping / Fimming ก็เต็มที่จนพอใจ
 
ความชื้นคุมให้ราว 40-70% และควรจะต่ำลงทีละ 5% ในแต่ละสัปดาห์ของการปลูก
ส่วนอุณหภูมิสามารถเพิ่มสูงได้นิดหน่อย ช่วงนี้ปล่อยเลี้ยงชิวๆได้ เพราะพืชใช้รากหาอาหารได้สมบูรณ์แล้ว รวมทั้งมีการคายน้ำที่ใบเพื่อลดความร้อนได้ ความร้อนควรอยู่ที่ 22-28ºC (ปิดไฟควรต่ำลงมาอีก 4-5ºC)

กัญชาช่วงทำดอก (Flowering Period)
ช่วงนี้ต้องเน้นหน่อยเพราะดอกจะสร้างไตรโครม (Trichromes) ขนใสๆแหล่งรวม THC / CBD
 
ความชื้นต้องลดลงมาที่ 40-50% ลดความชื้นในอากาศให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ พยายามอย่าให้ถึง 55% (ถ้าเลยไป 60% คือเริ่มแย่)
อุณหภูมิควรอยู่ที่ 20-26ºC พยายามทำให้เย็นที่สุดเท่าที่จะทำได้

กัญชาช่วง 1-2 อาทิตย์ก่อนตัดดอก (Late flowering)
ขั้นตอนนี้ไม่จำเป็นมากนัก แต่ถ้าทำได้ คุณคือนักปลูกระดับเทพ สเต็ปสุดท้ายนี้จะช่วยเพิ่มความแน่นของช่อดอก/ไตรโครม และช่วยเรื่องรสชาดให้ดีขึ้นด้วย

ลดความชื้นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ให้เหลือราว 30-40% ได้ยิ่งดี
ลดอุณหภูมิตอนเปิดไฟให้อยู่ราว 18-24ºC และ ทำให้ต่ำลงอีก 5-10ºC ในช่วงปิดไฟกลางคืน

ถ้าทำได้ตามนี้ก็จะได้ต้นไม้ที่เจริญเติบโตได้สมบูรณ์แน่นอน ถ้าคิดว่ามันยุ่งยากเกินไปอยากให้ลองคิดว่าผลที่ได้มันโครตจะคุ้มค่า

โปรดระลึกไว้เสมอและตระหนักถึงความจริงที่ว่าความชื้นสัมพัทธ์และอุณหภูมิมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน
 
A. วิธีลดความชื้น
เปิดช่องระบายอากาศที่มีอยู่ของคุณด้วยความเร็วที่สูงขึ้นหรืออัพเกรด (อากาศออกจากเต็นท์และห้องที่วางไว้!)
เพิ่มอุปทานอากาศใหม่ / เย็น (เช่นปริมาณอากาศที่ใช้งานโดยพัดลมขนาด 140 มม. สำหรับพีซีของ)
ลองรดน้ำต้นไม้ของคุณทันทีหลังจากเปิดไฟ
ใช้เงินกับเครื่องลดความชื้นขนาดพอเหมาะ (เครื่องขนาดเล็กไม่สามารถเก็บน้ำได้เพียงพอ)

B. วิธีการลดอุณหภูมิ
เช่นเดียวกับการลดความชื้น: เพิ่มการไหลเวียนของอากาศทั้งหมดในห้องของคุณโดยอนุญาตให้มีการสกัดอากาศอุ่นมากขึ้นและอากาศที่เย็นกว่าเพื่อเข้าสู่ (ความเร็วที่สูงขึ้นหรือท่อระบายอากาศที่ใหญ่กว่า)
มี "ไฟดับ" ระหว่างวันเสมอและ "เปิดไฟ" ในเวลากลางคืน
เมื่อคุณเติบโตขึ้นด้วยแสง HPS ให้พิจารณาใช้ cooltube
ติดตั้งเครื่องปรับอากาศ (AC's จะลดระดับความชื้น)

C. ความชื้นที่เพิ่มขึ้น
เพิ่มระดับความชื้นด้วยตนเองด้วยขวดสเปรย์ (จะไม่นาน)
ทำให้ผิวดินชุ่มชื้น แต่ไม่เปียก
แขวนผ้าเช็ดตัว / ผ้าเปียกไว้ในห้องของคุณหรือใส่น้ำเปล่าไว้ในนั้น
หรือใช้ลงทุนเงินในการสร้างเครื่องทำความชื้นด้วยถังเก็บน้ำขนาดใหญ่ (หรือเล็ก ๆหลายถัง โดยให้เติมน้ำอย่างต่อเนื่อง)

D. อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น
คุณสามารถอัปเกรดเป็นไฟเติบโตที่ใหญ่กว่าได้ตลอดเวลา (วัตต์มากขึ้น = ความร้อนเพิ่มขึ้น)
วางแผ่นทำความร้อนที่ด้านล่างของเต็นท์ของคุณหรือห้องปลูก
แยกห้องปลูกของคุณด้วยวัสดุจากร้านฮาร์ดแวร์
ใช้เครื่องทำความร้อนพื้นที่อย่างง่ายกับชุดเทอร์โมสเตท

ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.smartfarmdiys.com/